วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

คุณสมบัติของนักวิจัยที่ดี

 

     


    การเป็นนักวิจัยที่ดีนั้น นอกจากจะมีความรู้ด้านการวิจัยและการตลาดแล้ว สิ่งสำคัญที่มีจำเป็นสำหรับนักวิจัย มีดังต่อไปนี้ 

1. ความรับผิดชอบ นักวิจัยจะต้องมีความรับผิดชอบต่องานวิจัยของตนเองโดยปฏิบัติงานให้ทันตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ผู้วิจัยจะต้องมีความรับผิดชอบต่อผู้ที่ให้ข้อมูลโดยปกปิดเป็นความลับไม่นำมาเปิดเผย

2. การไม่มีอคติ หากผู้วิจัยมีอคติต่อการทำวิจัยจะส่งผลให้งานวิจัยบิดเบือนไปจากความเป็นจริง ซึ่งถือเป็นจริยธรรมอย่างหนึ่งที่นักวิจัยต้องยึดถือ การอคติอาจเกิดจากความไม่ชอบ ความชอบ ความรัก ความรังเกียจ หรือความกลัว เป็นต้น

3. มีความคิดริเริ่ม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีประการหนึ่งของนักวิจัย ในกระบวนการวิจัยหากมีความคิดริเริ่มไม่ว่าจะเป็น การเข้าใจปัญหา การออกแบบการวิจัย เทคนิคการเก็บข้อมูล การวิเคราะห์และแปรผล ตลอดจนข้อเสนอแนะที่นักวิจัยนำความคิดริเริ่มมาใช้ในการทำวิจัย ย่อมส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพงานวิจัยให้มีประสิทธิภาพและส่งผลต่อการนำไปใช้แก้ปัญหาหรือโจทย์วิจัยได้ตามต้องการ

4. การรู้จักประหยัด นักวิจัยต้องมีการบริหารจัดสรรงบประมาณ ให้มีความเหมาะสมและก่อให้เกิดประโยชน์และคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของนักวิจัย

5. ความอดทน ในงานวิจัยบางประเภทนักวิจัยจะต้องใช้ความพยายามอยู่มากในการ เข้าพื้นที่ขอเก็บข้อมูล อย่างเช่น การนัดหมายขอสัมภาษณ์ผู้บริหาร นักธุรกิจ อาจมีการเลื่อนนัดหลายครั้ง หากนักวิจัยไม่มีความอดทนอาจทำให้ต้องเสียโอกาสในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง เป็นต้น

6. ความซื่อสัตย์และการตรงต่อเวลา การเก็บข้อมูลและการแปลผลถือเป็นขั้นตอนที่นักวิจัยต้องคำนึงถึงความซื่อสัตย์สุจริต เพราะมิฉะนั้นแล้วรายงานการวิจัยฉบับที่เสร็จเรียบร้อยแล้วไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เนื่องจากข้อมูลที่ได้มานั้นไม่น่าเชื่อถือ ทำให้สูญเสียเวลาและค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์ ส่วนมากตรงต่อเวลาถือเป็นวิจัย ที่สำคัญในการทำวิจัย เพราะผลลัพธ์จากการวิจัยต้องใช้ในเวลาที่เหมาะสมจึงจะมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุด

7. มนุษย์สัมพันธ์ นักวิจัยการตลาดต้องพบปะกับบุคคลด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย เช่น หัวหน้าฝ่ายภาคสนาม ผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา  จึงจำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติด้านมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เพราะจะทำให้สามารถเข้ากับบุคคลอื่นได้ง่าย มีความเป็นมิตรกับบุคคลแปลกหน้าซึ่งเพิ่งรู้จักมีความสุภาพอ่อนโยน มีศิลปะการเจรจา และมีความอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำการวิจัยได้อย่างราบรื่น เนื่องจากจะต้องมีคนให้ความช่วยเหลือด้วย

    การเป็นนักวิจัยที่ดีนอกจากจะต้องมีความรู้ด้านวิจัยและด้านการตลาดแล้ว นักวิจัยจึงควรตระหนักให้ความสำคัญกับคุณสมบัติที่กล่าวมาในเบื้องต้น ทั้งในด้านความรับผิดชอบ การไม่มีอคติ การมีความคิดริเริ่ม การรู้จักประหยัด ความอดทน ความซื่อสัตย์และการตรงต่อเวลา มนุษย์สัมพันธ์ ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือน่ายกย่องแก่นักวิจัย

จรรยาบรรณของนักวิจัย





จรรยาบรรณนักวิจัย ที่สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) 2554 กำหนดไว้ มีรายละเอียด ดังนี้

 1.  นักวิจัยต้องซื่อสัตย์และมีคุณธรรมในทางวิชาการและการจัดการ

           นักวิจัยต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ไม่นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน ไม่ลอกเลียนงานของผู้อื่น ต้องให้เกียรติและอ้างถึงบุคคลหรือแหล่งที่มาของข้อมูลที่นำมาใช้ในงานวิจัย ต้องซื่อตรงต่อการแสวงหาทุนวิจัยและมีความเป็นธรรมเกี่ยวกับผลประโยชน์ที่ได้จากการวิจัย

2  นักวิจัยต้องตระหนักถึงพันธกรณีในการทำวิจัย

         ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับหน่วยงานที่สนับสนุนการวิจัยและต่อหน่วยงานที่ตนสังกัด นักวิจัยต้องปฏิบัติตามพันธกรณีและข้อตกลงการวิจัยที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายยอมรับร่วมกัน อุทิศเวลาทำงานวิจัยให้ได้ผลดีที่สุดและเป็นไปตามกำหนดเวลา มีความรับผิดชอบไม่ละทิ้งงานระหว่างดำเนินการ

  3. นักวิจัยต้องมีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการที่ทำวิจัย

           นักวิจัยต้องมีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการที่ทำวิจัยอย่างเพียงพอและมีความรู้ความชำนาญหรือมีประสบการณ์ เกี่ยวเนื่องกับเรื่องที่ทำวิจัย เพื่อนำไปสู่งานวิจัยที่มีคุณภาพ และเพื่อป้องกันปัญหาการวิเคราะห์ การตีความ หรือการสรุปที่ผิดพลาด อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่องานวิจัย

             

 4. นักวิจัยต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ศึกษาวิจัย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต

          นักวิจัยต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบระมัดระวัง และเที่ยงตรงในการทำวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคน สัตว์ พืช ศิลปวัฒนธรรม ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม มีจิตสำนึกและมีปณิธานที่จะอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม

 

5.  นักวิจัยต้องเคารพศักดิ์ศรี และสิทธิของมนุษย์ที่ใช้เป็นตัวอย่างในการวิจัย 

        นักวิจัยต้องไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ทางวิชาการจนละเลย และขาดความเคารพในศักดิ์ศรีของเพื่อนมนุษย์ต้องถือเป็นภาระหน้าที่ที่จะอธิบาย จุดมุ่งหมายของการวิจัยแก่บุคคลที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยไม่หลอกลวงหรือบีบบังคับ และไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

 6.  นักวิจัยต้องมีอิสระทางความคิด โดยปราศจากอคติในทุกขั้นตอนของการทำวิจัย

        นักวิจัยต้องมีอิสระทางความคิด ต้องตระหนักว่า อคติส่วนตนหรือความลำเอียงทางวิชาการ อาจส่งผลให้มีการบิดเบือนข้อมูลและข้อค้นพบทางวิชาการ อันเป็นเหตุให้เกิดผลเสียหายต่องานวิจัย 

 7.  นักวิจัยพึงนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบ

          นักวิจัยพึงเผยแพร่ผลงานวิจัยเพื่อประโยชน์ทางวิชาการและสังคมไม่ขยายผล ข้อค้นพบจนเกินความเป็นจริง และไม่ใช้ผลงานวิจัยไปในทางมิชอบ

 

 8.  นักวิจัยพึงเคารพความคิดเห็นทางวิชาการของผู้อื่น

            นักวิจัยพึงมีใจกว้าง พร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลและขั้นตอนการวิจัยยอมรับฟังความคิดเห็นและเหตุผลทางวิชาการของผู้อื่น และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขงานวิจัยของตนให้ถูกต้อง

 9.  นักวิจัยพึงมีความรับผิดชอบต่อสังคมทุกระดับ

             นักวิจัยพึงมีจิตสำนึกที่จะอุทิศกำลังสติปัญญาในการทำวิจัย เพื่อความก้าวหน้าทาง วิชาการเพื่อความเจริญและประโยชน์สุขของสังคมและมวลมนุษย์ชาติ

    จะเห็นได้ว่า จรรยาบรรณนักวิจัยมีความสำคัญในการนำไปปฏิบัติ เพื่อรักษาชื่อเสียงและส่งเสริมเกียรติคุณของตน หลักจรรยาบรรณทั้ง 9 ได้ ซึ่งมีความครอบคลุมทุกด้าน ทั้งการมีจรรยาบรรณต่อตนเอง ต่อผู้อื่น ต่อองค์กรและสังคม ดังนั้นการเป็นนักวิจัยที่ดี นอกจากจะมีความรู้ความสามารถด้านวิจัย ด้านสาขาวิชาที่ทำ แล้วนักวิจัยที่ดีจะต้องมีจรรยาบรรณ ดังที่กล่าวมาแล้วด้วย